ได้ยินมาว่าฉันสบายดีสุดๆไปเลยแหละ — Upright and still breathing. ก็ยังยืนได้และยังหายใจอยู่อะ — My lawyer says I don't have to answer that question. ทนายบอกว่าฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนั้น (เป็นการล้อเลียนเหตุการณ์ที่เมื่อเกิดปัญหาและมีเรื่องถึงตำรวจ บุคคลสามารถว่าจ้างทนายได้ และทนายสามารถแนะนำบุคคลนั้นให้พูดหรือไม่พูดก็ได้เมื่อตำรวจถาม เพราะทุกอย่างที่บุคคลนั้นพูดจะส่งผลต่อรูปคดี) — I can't complain... I've tried, but no one listens. บ่นไม่ได้หรอก ก็พยายามแล้วนะ แต่ไม่มีใครฟังสักคน — I'd be better only if I won a lottery. ถ้าให้รู้สึกดีมากไปกว่านี้ก็คงเป็นตอนถูกหวยอะ — Happier than a cat in a room full of catnip. รู้สึกดีกว่าแมวที่อยู่ในห้องที่เต็มไปด้วย catnip ซะอีก (catnip เป็นต้นหญ้าชนิดหนึ่งที่แมวชอบมาก) — If I were any better I'd be twins. ถ้ารู้สึกดีไปมากกว่านี้ ฉันก็คงมีฝาแฝดแล้วแหละ (เพราะรู้สึกดีสุดๆ และคนๆเดียวคงรู้สึกดีมากกว่านี้ไปไม่ได้ ถ้าจะให้รู้สึกดีมากกว่าคงเป็นคน 2 คน หรือฝาแฝด) — If I were any finer, I'd be china. (fine นอกจากจะมีความหมายว่า ดี แล้ว ยังหมายความว่า "บาง" และ "คุณภาพดี" ได้อีกด้วย ซึ่งใช้เรียกเครื่องลายครามเซรามิกแบบบาง ในอดีตไม่มีใครสามารถทำเครื่องลายครามเซรามิกให้บางและมีคุณภาพดีได้ โดยประเทศจีนทำได้เป็นประเทศแรก จึงมียี่ห้อที่คนรู้จักกันทั่วไปว่า fine china) — I'm fine as frog hair.
(เป็นสำนวนที่มีความหมายว่า "สบายดีมาก") เหล่านี้เป็นแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น เชื่อว่าหลายคนคงมีวิธีตอบคำถาม "How are you? " หลายวิธี แตกต่างกันไปว่าใครจะคิดอะไรได้ ถ้าใช้บ่อยจนหมดไอเดีย ก็สามารถหยิบเอาประโยคที่เรามานำเสนอวันนี้ไปใช้กันดูได้ค่ะ รับรองว่าคนฟังจะรู้สึกอยากคุยกับคุณมากขึ้นแน่นอน การเรียนรู้ที่จะตอบคำถามภาษาอังกฤษง่ายๆในหลายวิธี ก็เป็นวิธี เรียนภาษาอังกฤษ อีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คุณรู้คำศัพท์และวิธีการนำมาใช้มากขึ้นค่ะ
เราใช้ "How [กลุ่มคำที่บ่งบอกความถี่]" เพื่อที่จะถามเกี่ยวกับความถี่ How often do you go to the cinema? คุณไปโรงหนัง บ่อย แค่ไหน ความต่อเนื่องของการสนทนา หรือการพูดคุย Continuity of Conversation ถ้าหากว่าคุณอยากให้การสนทนาระหว่างคุณกับผู้ฟังมีความต่อเนื่อง ผมแนะนำให้ ถามกลับด้วยครับ! [ไม่ใช่เอาแต่ตอบ "Yes" เพราะว่าผู้ฟังจะคิดว่าเราขี้เกียจคุย หรือตอบมั่ว] If you want to continue the conversation, it is recommended that you ask the listener (person talking to you) questions too! *หมายเหตุ: ตัวอย่างเหล่านี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของคำถามที่คุณเอาไปถามได้ *N. B. The examples presented are only a fraction of the questions you can use.
พักนี้มีนักเรียนถามเรื่องการใช้ Are you…. /Do you… ว่ามันใช้แตกต่างกันอย่างไร? ง่ายๆเลยนะ เมอยากให้เราจำตัวอย่างประโยค.. Are you ok? ถามว่า( สถานะ)คุณโอเคมั้ย? —ตอบได้ yes/no ———is/am/are คือกริยาแท้อยู่แล้วนะ ดังนั้นเวลาเจอพวก is/am/are นำประโยค–มักจะตอบ yes/no Do you like pizza? ถามว่า คุณชอบพิซซ่ามั้ย —กริยาแท้คือ like แต่เอามาขึ้นประโยคคำถามแบบ is/am/are ไม่ได้–จึงต้องอาศัยกริยาช่วย Do มานำหน้า! แถม! Do ยังบอกเราอีกด้วยว่าคำถามนี้.. ถามในเวลาปัจจุบัน! แล้วเกี่ยวกับ Part 2 ของ TOEIC อย่างไร? ใครเคยทำโจทย์ของพารท์นี้–รู้เลยว่าต้องคอยฟังคำถามให้ดีๆ เพราะเราจะต้องเลือกคำตอบที่ เหมาะสม กับคำถามนั้นๆ ถ้านักเรียนได้ยินเค้าถามโดยใช้… is/am/are/was/were หรือ do/did ขึ้นต้น–มักจะตอบโดยใช้ yes/no BUT!! เทคนิคนี้ใไม่ได้ใช้ได้ 100% เพราะบางทีคนตอบข้าม yes/no ไปเลย เช่น Question: Do you like Pizza? Answer: Pizza is my favorite food. (ตอบโดยไม่ใช้ yes/no) ดังนั้น–เวลาสอบ Listening, นักเรียนจะต้องเพิ่มทักษะการฟังอย่างที่เมแนะนำ เพราะเทคนิคใช้ได้แค่ 20-30% ของข้อสอบเท่านั้น! ถ้าคุณไม่ฝึกฟังเลย ทำแต่ข้อสอบๆ แล้วคุณจะมีทักษะการฟังติดตัวได้อย่างไร?
Exclamation Point Request Question Question Mark ปกติเรามักจะได้ยินคำทักทายภาษาอังกฤษที่ว่า How are you? อยู่บ่อยๆ และพวกเราทุกคนก็มักจะเคยชินกับการตอบว่า I'm fine, thank you. And you? เป็นประโยคตอบอัตโนมัติที่ท่องกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้วเราสามารถตอบแบบอื่นได้อีกหลายแบบนะ หรือบางคนอาจจะมีความรู้สึกที่แท้จริงอยากตอบบ้าง แต่ก็นึกไม่ออก พูดได้แต่ I'm fine ดังนั้นมาลองดูการตอบแบบอื่นที่หลากหลายบ้าง ถ้าเจอคำถาม คำทักทายว่า How are you? สามารถตอบกลับได้ดังนี้ รู้สึกดีใช้แบบนี้ก็ได้ I'm all right. I'm good. I'm cool. Pretty good. I'm doing well. Not bad. รู้สึกไม่ค่อยดีก็ใช้แบบนี้ I'm tired. So, so. I'm feeling down. Not so good. จากแนวทางการตอบคำถามคำทักทาย How are you? เราสามรถเลือกตอบกลับได้เป็น 2 แบบ คือ แบบรู้สึกว่าวันนี้ดีมาก กำลังดี สบายดีมีความสุข ก็เลือกใช้ได้หลายแบบ แต่ถ้ารู้สึกไม่ค่อยดี อยากจะตอบไปแบบตรงๆว่าเหนื่อย ไม่ค่อยโอเค ก็สามารถเลือกใช้ได้อีกหลายแบบตามข้างต้นเช่นกัน ดังนั้นครั้งต่อไปเจอทักทายว่า How are you? แล้วก็สามารถนำคำตอบที่หลากหลายไปลองใช้กันดูได้
/ Fantastic! / Great! – ถ้าอารมณ์ดีสุดๆก็ตอบไปด้วยรอยยิ้มได้เลยค่ะ Not bad – ใช้แล้วฟังดูดีกว่า I'm fine เพราะพูด fine เฉยๆอาจฟังเหมือนเราไม่อยากคุยต่อ Pretty good, thanks – เป็นภาษาพูดที่ฟังดูเป็นกันเองมากกว่า "Very well, thanks" ตามที่หนังสือพร่ำสอนเราอยู่เสมอ Couldn't be better – แปลว่า ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เราอาจเจอเรื่องดีสุดๆมาก็ได้ 2. ก็ ok นะ Nothing much – คำตอบสุดฮิต อาจเสริมต่อด้วยสิ่งที่น่าสนใจก็ได้ เช่น "Nothing much. Just getting ready for my TOEIC test. " Just the casual – ใช้ในกรณีที่เราทำสิ่งเดิมๆทุกวัน Same old, same old – ใช้ตอนเราทำแต่เรื่องเดิมๆในแต่ละวัน แถมเราเริ่มเบื่อซะแล้วสิ 3. ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย I've been better – อาจใช้เมื่อตอนเรากำลังเจอเรื่องแย่ๆมา แล้วอยากหาคนระบายให้ฟัง Not so great – ถ้าพูดแบบนี้แปลว่าเราไม่ค่อย happy นัก Terrible / Bad – ใช้ตอนเรารู้สึกแย่สุดๆ แบบเจอมาหนักมาก Speaking Tips – เวลาตอบสามารถเสริมด้วย You? หรือ How about you? ก็จะทำให้คู่สนทนารู้สึกดีขึ้นได้ แสดงว่าเราก็เอาใจใส่เค้าเหมือนกันนะ การถามกลับจะทำให้การสนทนาเกิดขึ้นต่อเนื่อง เช่น A: Hi, Wendy.
หนังสือเล่มนี้ของใคร Whose is this? อันนี้ของใคร "How" asks about quantity (How many) amount (How much) / size (How 'adjective') method (How) frequency (How often) "How" ถามเกี่ยวกับ จำนวน (กี่อัน) ปริมาณ (เท่าไร / เท่าไหน / แค่ไหน) วิธีการ (อย่างไร) ความถี่ (บ่อยแค่ไหน) We use "How many" with plural countable nouns. เราใช้ "How many" กับนามนับได้พหูพจน์ How many phones do you have? คุณมี มือถือ กี่เครื่อง We use "How much" with uncountable nouns. เราใช้ "How much" กับนามที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ How much time do you spend on your phone? คุณใช้ เวลา มากแค่ไหนบนมือถือ We use "How [adjective]" to ask about size or extent. เราใช้ "How [คำคุณศัพท์]" เพื่อที่จะถามเกี่ยวกับขนาด ขอบเขต หรือแค่ไหน How far is your home from here? บ้านคุณ ไกล จากที่นี่แค่ไหน Student How do you say "เกรงใจ" in English? พูดคำว่า "เกรงใจ" เป็นภาษาอังกฤษว่ายังไง Teacher (ที่มีความรู้ภาษาไทย) "เกรงใจ" means "to be considerate" or "to be afraid of offending". "เกรงใจ" แปลว่า "คิดถึงความคิด หรือความรู้สึกของผู้อื่น" หรือ "กลัวทำให้ไม่พอใจ" We use "How [frequency adverb]" to ask about frequency.
"I'm fine" เป็นการตอบรับแบบง่ายๆสำหรับคำถาม "How are you? " ที่เราคุ้ยเคยกันมากที่สุดก็ว่าได้ นอกจากนั้นยังฟังดูน่าเบื่อสุดๆอีกต่างหาก แต่ถ้าคุณกำลังคุยกับคนที่คุณไม่อยากจะคุยด้วยนักก็คงไม่เป็นไร คนที่รู้ภาษาอังกฤษดีจะมีวิธีตอบคำถามนี้อย่างพลิกแพลงและน่าสนใจอีกหลายวิธี บางวิธีก็แสดงให้เห็นถึงบุคคลิกหรือความรู้ความสามารถบางอย่างของตัวบุคคล ซึ่งอาจสร้างความประทับใจเล็กๆให้กับผู้ถามได้อีกด้วย เราได้รวบรวมวิธีการตอบที่น่าสนใจและมีความหมายว่า "สบายดี" เท่านั้น เพราะหากคนที่ถามเราว่า "สบายดีไหม? " เป็นคนที่เราไม่รู้จัก หรือไม่สนิทคุ้นเคยด้วย เราก็คงไม่อยากจะมานั่งแจกแจงหรือระบายให้คนไม่รู้จักฟังว่าเรามีปัญหาอะไรอยู่แน่ๆ — Every day is better and better. ดีขึ้นในทุกๆวัน — Better than ever. ดีกว่าที่เคยรู้สึกมาเลย (รู้สึกดีสุดๆ) — Never been better. ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อนเลย — Could not be better. รู้สึกดีมากไปกว่านี้ไม่ได้ละ — Better than yesterday, but not as good as I will be tomorrow! ดีกว่าเมื่อวานแล้วนะ แต่ไม่ดีไปกว่าวันพรุ่งนี้แน่ (หมายถึงพรุ่งนี้จะรู้สึกดีกว่าวันนี้อีก หรือรู้สึกดีขึ้นๆในทุกๆวันนั่นเอง) — From what I've heard, I am very good.
"Who" refers to people. "Who" ถามถึงคน (ใคร) Who likes to read or watch cartoons? ใครชอบอ่าน หรือดูการ์ตูนบ้าง Who forgot their pen? ใครลืมปากกา "What" refers to things / actions / activities / qualities. "What" ถามเกี่ยวกับ สิ่งของ / การกระทำ / กิจกรรม / คุณสมบัติ What happened? อะไรเกิดขึ้น What did you watch at the cinema? ดูอะไรมาที่โรงหนัง What did you watch? ดูอะไรมา What kind of book is that? อันนั้นเป็นหนังสือประเภทอะไร What are you doing after class? คุณจะทำอะไรหลังเลิกเรียน What time is it? / What's the time? กี่โมงแล้ว / ตอนนี้กี่โมงแล้ว What is your best friend like? เพื่อนสนิทของคุณเป็นคนยังไงบ้าง What does your best friend like? เพื่อนสนิทของคุณชอบอะไรบ้าง "When" is used to ask about time. "When" ถามเกี่ยวกับเวลา (เมื่อไร) (Since) When did you start studying English seriously? คุณตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เมื่อไร When are you taking your IELTS? คุณจะไปสอบไอเอลเมื่อไร When will you go to study abroad? คุณจะไปเรียนเมืองนอกเมื่อไร When is your birthday? วันเกิดของคุณเมื่อไหร่ "Where" is used to ask about place.
How's it going? B: Pretty good, thanks. I'm going to the theaters today. How about you? A: Oh, you know. It's same old, same old. การทักทายเป็นภาษาอังกฤษหรือ casual greeting นั้นต้องรู้ไว้ค่ะ ไม่งั้นถ้าเจอฝรั่งทักมา ตอบไปว่า I'm fine thank you and you? เชยสุดๆเลย ที่มา